ปี ค.ศ. 1972 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการของเสีย และกฎระเบียบข้อบังคับอื่นๆ อีกมากมายในการควบคุมอุตสาหกรรมหลักของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
ปี ค.ศ. 1996 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้ออกกฎหมายใหม่ที่เรียกว่า กฎหมายเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนและการจัดการของเสีย (Circular Economy and Waste Management Law) กล่าวคือ ประเทศจะต้องมีระบบการจัดการขยะในรูปแบบเดียวกับการดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน เป็นรูปแบบเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ ที่เน้นการบริโภคอย่างชาญฉลาด มีการแบ่งปันและคืนประโยชน์สู่สังคม)
สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นอีกประเทศในกลุ่ม EU (European Union) ที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดและมีความใส่ใจเรื่องพลังงานอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงาน (Energy Transition)
ปี ค.ศ. 2011 สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีการกำหนดเป้าหมายในการปรับโครงสร้างด้านอุตสาหกรรมของประเทศใหม่ เพื่อตอบสนองนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การจัดการการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และการใช้เทคโนโลยีสะอาด (Green Technologies) ซึ่งนโยบายเหล่านี้ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งภายใต้นโยบายอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Ecological Industrial Policy) ของประเทศ ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 ของ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
ปี ค.ศ. 2013 รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนชื่อกระทรวงจาก กระทรวงเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (Ministry of Economics and Technology) เป็น กระทรวงเศรษฐกิจและพลังงาน (Ministry of Economics and Energy/Federal Ministry for Economic Affairs and Energy) เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียวของประเทศ (German Green Industry) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างอุตสาหกกรรมของประเทศและนโยบายด้านพลังงาน