นาโอชิมะเป็นเกาะที่อยู่ในทะเลเซโตะ(Seto Inland Sea) ทางตอนเหนือของคากาว่า (Kagawa) ซึ่งมีพื้นที่เพียง ๘.๑๓ ตารางกิโลเมตรและมีประชากรประมาณ ๓,๖๐๐ คน โดยเป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์จากทะเลไม่ว่าจะเป็นปลาและสาหร่ายก็ตาม
จุดเริ่มต้นของปัญหาเกิดขึ้นจากเกาะเทชิมะที่หมายถึงดินแดนแห่งความสมบูรณ์ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ใกล้เกาะนาโอชิมะนั้นต้องเผชิญกับปัญหาขยะโดยเฉพาะ การทิ้งขยะผิดกฎหมายจำพวกซากรถยนต์ที่ถูกทำลาย (Automobile Shredder Dust :ASD)และส่งผลทำลายสภาพแวดล้อมของเกาะเทชิมะทำให้สัตว์ต่างๆทั้งปลา สัตว์ทะเล นกและมนุษย์ต้องเผชิญกับโรคทางเดินหายใจจึงมีการเรียกร้องจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในเกาะเทชิมะให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ดังนั้นภาคส่วนต่างๆจึงเริ่มหาทางจัดการกับขยะเหล่านั้น
แนวทางการแก้ไขปัญหาและจุดเริ่มต้นโครงการอีโคทาวน์บนเกาะนาโอชิมะ
โดยกำหนดให้สร้างโรงงานเพื่อกำจัดขยะดังกล่าวบนเกาะนาโอชิมะและเป็นที่มาของการเริ่มโครงการอีโคทาวน์บนเกาะนาโอชิมะซึ่งได้รับการสนับสนุนโครงการจากรัฐบาลกลางเป็นลำดับที่ ๑๕ ในบรรดาอีโคทาวทั้งหมดของญี่ปุ่นในปี ๒๐๐๒
เป้าหมายหลักของอีโคทาวน์บนเกาะนาโอชิมะ
๑) สร้างสรรค์ดินแดนแห่งการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมบนพื้นฐานของทรัพยากรท้องถิ่น (Creation of environmental education fields based on local resources)
๒) เน้นการมีส่วนร่วมของหลายภาคส่วนในการวางผังเมือง (Involvement of multi stakeholders in town planning)
๓) สร้างความราบรื่นในโครงการบำบัดของเสียของเกาะเทชิมะ (Smooth implementation of the waste treatment project in Teshima) ทั้งนี้เพื่อคงไว้ซึ่งความงามตามธรรมชาติของเมืองนาโอชิมะ
ผลจากกรณีปัญหาขยะที่เกาะเทชิมะ
๑) ทำให้กระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่นดำเนินการแก้ไขกฎหมายความสะอาดสาธารณะและการจัดการของเสียโดยมีการคิดค่าธรรมเนียมทั้งจากการทิ้งของเสียและผู้ที่ก่อให้เกิดของเสียด้วย
๒) ป้ายหน้าเกาะนาโอชิมะที่เน้นให้เห็นถึงการเป็นเมืองแห่งสิ่งแวดล้อม
๓) แนวทางการดำเนินการตามแผนอีโคทาวน์ของนาโอชิมะนั้นมีการวางกรอบให้เป็นเกาะนิเวศ (Eco-island) ซึ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อมและการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กันไปโดยความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจ ท้องถิ่น และคนในชุมชนที่อาศัยอยู่บนเกาะ
๔) มีการส่งเสริมให้เป็นสถานที่สำหรับการเรียนรู้และศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมในศตวรรษที่ ๒๑
ตัวอย่างของการจัดการพื้นที่เล็กๆ ให้มีความผสมผสานกลมกลืนระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และอุตสาหกรรม
เกาะนาโอชิมะเป็นตัวอย่างที่ดีของการจัดการพื้นที่เล็กๆให้มีความผสมผสานกลมกลืนระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และอุตสาหกรรมโดยบนเกาะแม้จะเป็นเกาะเล็กๆแต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงเรียน พิพิธภัณฑ์ ร้านสหกรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Kagawa Naoshima Environment Center ซึ่งเป็นโรงงานเผาขยะที่มาจากเกาะเทชิมาโดยระบบการเผาขยะดังกล่าวเป็นระบบปิดที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นหรือกลิ่นรบกวนแต่อย่างใดและยังทำให้เกิดผลพลอยได้จากการเผาขยะในรูปของเศษขี้โลหะ(Slag) ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิก และวัสดุก่อสร้างได้ด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานรีไซเคิลของเสียโดยการเผาของบริษัทมิตซูบิชิ (Incinerating & Melting Plant of Recycle Waste) ด้วยซึ่งกระบวนการทำงานของโรงงานไม่เพียงไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมแล้วยังมีบทบาทช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยเนื่องจากสามารถลดของเสียจากภาคอุตสาหกรรมรวมทั้งการรีไซเคิลทำให้เกิดผลผลิตที่สำคัญคือทองแดง ทองคำและโลหะอื่นๆซึ่งสามารถนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตได้ต่อไป
ปัจจุบันนาโอชิมะอีโคทาวน์เป็นตัวอย่างที่ดีของการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยแม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆที่มีโรงงานหลักในการจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเพียง ๒ แห่ง แต่โดยรวมแล้วมีการวางแนวทางส่งเสริมการเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีมากแห่งหนึ่ง เนื่องจากเป็นเกาะที่ไม่ใหญ่นักจึงส่งเสริมให้มีการใช้รสบัสร่วมกันหรือใช้จักรยานที่มีให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยวแทนการใช้รถยนต์ส่วนตัวซึ่งจะทำให้สิ้นเปลืองการใช้พลังงานและก่อให้เกิดมลพิษบนเกาะ นอกจากนี้ยังเป็นเกาะที่มีความสวยงามมีทรัพยากรทางทะเลอันอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งมีวิถีการดำเนินชีวิตตามแบบเศรษฐกิจพอเพียงโดยคนที่อาศัยอยู่บนเกาะส่วนใหญ่จะมีการเพาะปลูกผักหรือผลไม้ไว้รับประทานเองโดยผักที่เพาะปลูกนั้นก็มีการเพาะปลูกผักประเภทต่างๆที่หลากหลายเพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วงเวลาที่ต่างกันทำให้มีอาหารหล่อเลี้ยงอย่างต่อเนื่อง