พื้นที่เป้าหมาย 15 จังหวัด 18 พื้นที่
จังหวัดชลบุรี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดนครปฐม จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปทุมธานี ตำบลบางกะดี อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดระยอง เขตควบคุมมลพิษ เขตประกอบการไออาร์พีซี จังหวัดราชบุรี จังหวัดสงขลา ตำบลฉลุง อำเภอสะเดา จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสระบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดระยอง ได้รับการกำหนดบทบาทให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก และถูกกำหนดแนวทางการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ เป็นศูนย์บริการมาตรฐานการศึกษา และวิจัยด้านเทคโนโลยีและกำหนดให้ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก เป็นประตูทางออกให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายต่างประเทศ โดยไม่ต้องผ่านกรุงเทพฯ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไว้อย่างสมบูรณ์ และกำหนดพื้นที่บริเวณมาบตาพุดอำเภอเมือง จังหวัดระยอง เป็นที่ตั้งสำหรับอุตสาหกรรม 8,000 ไร่ มีท่าเรือน้ำลึกขนส่งสินค้าที่สามารถรับเรือขนาด 20,000 ตัน 1 ท่า และท่าขนส่งวัสดุเหลวที่สามารถรับเรือขนาด 8,000 ตัน 2 ท่า เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมที่สำคัญ ๆ คือ โรงแยกก๊าซธรรมชาติ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี จังหวัดระยองจึงเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในส่วนของการลงทุนด้านอุตสาหกรรม นอกจากนี้จังหวัดระยอง ยังได้รับการกำหนดเขตการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้อยู่ในเขต 3 ของการส่งเสริมการลงทุนซึ่งได้เปรียบกว่าจังหวัดปริมณฑลและอยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร ในระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตร จึงส่งผลให้จังหวัดระยองเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว
จังหวัดระยอง ประกอบด้วย ที่ราบชายฝั่งที่เกิดจากการทับถมของตะกอนบริเวณแอ่ง ลุ่มน้ำระยอง และที่ราบสลับเนินเขาและภูเขา มีลักษณะเป็นลอนลูกคลื่นสูงต่ำสลับกันไปรวมกับพื้นที่ทิวเขา ๒ แนว คือทิวเขาชะเมาทางทิศตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๐๓๕ เมตร และทิวเขาที่อยู่ประมาณกึ่งกลางของตัวจังหวัดเป็นแนวยาวจากอำเภอเมืองขึ้นไปทางเหนือจนสุดเขตจังหวัดเป็นเนินเขาที่เตี้ยกว่าคือ เขาขุนอิน เขาจอมแห เขางวงช้าง ในเขตอำเภอบ้านค่ายและเขาท่าฉุด เขายายตา เขาตะเภาคว่ำ ในเขตอำเภอเมืองระยอง มีแม่น้ำสำคัญ ๒ สาย คือ แม่น้ำระยองยาวประมาณ ๕๐ กิโลเมตร ไหลผ่านท้องที่อำเภอปลวกแดง อำเภอบ้านค่าย อำเภอเมืองระยอง ไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง และแม่น้ำประแสร์ยาวประมาณ ๒๕ กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากทิวเขาในจังหวัดจันทบุรี ไหลผ่านท้องที่ของอำเภอเขาชะเมา อำเภอ แกลง ลงสู่ทะเลที่ตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง แต่หากแบ่งลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดระยองทางกายภาพแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น ๕ ลักษณะ ได้แก่
-
- หาดทรายและสันทราย จังหวัดระยองอยู่ติดทะเลมีหาดทรายและสันทรายเป็นแนวยาว ตามแนวชายฝั่งตะวันออก-ตะวันตก ประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร มีความสูงประมาณ ๓ เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ความลาดชันต่ำและค่อย ๆ สูงขึ้นในแนวเหนือ-ใต้ แนวชายหาดเริ่มตั้งแต่อำเภอ บ้านฉางไปสิ้นสุดที่อำเภอแกลง
- ที่ลุ่มต่ำและที่ราบเรียบ พบบริเวณทิศใต้ถัดจากแนวสันทรายมาทางทิศเหนือเป็น หย่อม ๆ ตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำระยองมีสภาพพื้นที่เป็นที่ราบลุ่มต่ำ น้ำทะเลท่วมถึง มีน้ำแช่ขังเกือบตลอดปี ส่วนบริเวณที่ราบเรียบพบตามแนวใกล้ลำน้ำหรือพื้นที่ที่ต่อเนื่องจากที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทะเล
- ลูกคลื่นลอนลาดและลูกคลื่นลอน มีลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาด ลูกคลื่นลอนชัน และเนินเขาเป็นส่วนใหญ่ พบในพื้นที่ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากที่ราบเรียบและที่ลุ่มต่ำ มีความลาดชันประมาณร้อยละ ๓-๑๖ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่เหลือตกค้างจากการกัดกร่อน
- บริเวณที่เป็นเนินเขาและที่ลาดเชิงเขา มีลักษณะเป็นเนินเขาลูกเล็ก ๆ ติดต่อกันไปหรือเป็นที่ลาดเชิงเขา มีความลาดชันตั้งแต่ร้อยละ ๑๖-๓๕ สภาพพื้นที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง มีทั้งที่เป็นพื้นผิวที่เหลือจากการกัดกร่อนและพื้นที่หินดินดานเชิงเขา
- ที่สูงชันและมีความลาดชันมากกว่าร้อยละ ๓๕ และมีระดับความสูงจากพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ตั้งแต่ ๑๕๐ เมตรขึ้นไป ส่วนมากพบบริเวณตอนกลางของจังหวัดระยอง
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดระยองในปี 2557 มีมูลค่าลดลงร้อยละ 3.43 เมื่อเทียบกับปี 2556 ประชากรมีรายได้เฉลี่ยต่อหัว 1,008,615 บาท โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวม ณ ราคาประจำปี 874,547 ล้านบาท ซึ่งสาขาที่มีมูลค่าการผลิตสูงสุด คือ สาขาอุตสาหกรรม 314,381 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.95 ของสาขาการผลิตทั้งหมด
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดระยอง ณ ราคาประจำปี
หน่วย : ล้านบาท
สาขา | 2553 | 2554 | 2555 | 2556 | 2557 |
ภาคเกษตร | 27,363 | 33,705 | 27,025 | 22,660 | 20,962 |
เกษตรกรรมการล่าสัตว์และ การป่าไม้ |
23,942 | 29,691 | 22,523 | 18,873 | 16,892 |
การประมง | 3,421 | 4,014 | 4,502 | 3,787 | 4,070 |
ภาคนอกเกษตร | 688,762 | 730,853 | 827,199 | 883,004 | 853,585 |
การทําเหมืองแร่และเหมืองหิน | 241,906 | 274,982 | 344,687 | 353,116 | 349,770 |
อุตสาหกรรม | 311,187 | 286,181 | 303,293 | 346,477 | 314,381 |
การไฟฟ้า แก๊ส และการประปา | 40,634 | 57,254 | 51,518 | 48,809 | 52,570 |
การก่อสร้าง | 6,294 | 5,440 | 4,641 | 6,707 | 5,800 |
การขายส่ง การขายปลีกการซ่อมแซมยาน-ยนต์ จักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน |
50,067 | 52,231 | 52,582 | 56,467 | 53,316 |
โรงแรมและภัตตาคาร | 1,747 | 1,974 | 2,148 | 2,430 | 2,644 |
การขนส่ง สถานที่เก็บสินค้าและ การคมนาคม |
15,261 | 16,156 | 16,125 | 15,312 | 16,277 |
ตัวกลางทางการเงิน | 4,682 | 5,417 | 6,568 | 7,475 | 9,622 |
บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ การให้เช่าและบริการทางธุรกิจ |
5,550 | 19,093 | 32,611 | 33,256 | 34,385 |
การบริหารราชการและการ ป้องกันประเทศรวมทั้งการ ประกันสังคมภาคบังคับ |
5,736 | 6,068 | 6,370 | 6,400 | 7,226 |
การศึกษา | 3,222 | 3,271 | 3,404 | 3,541 | 3,888 |
การบริการด้านสุขภาพและสังคม | 1,692 | 1,758 | 2,050 | 1,827 | 2,286 |
การให้บริการด้านชุมชน สังคม และบริการส่วนบุคคลอื่นๆ |
640 | 827 | 967 | 1,004 | 1,133 |
ลูกจ้างในครัวเรือนส่วนบุคคล | 146 | 202 | 235 | 183 | 288 |
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) |
716,125 | 764,558 | 854,225 | 905,664 | 874,547 |
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อ หัว (บาท) |
873,241 | 918,744 | 1,011,901 | 1,058,293 | 1,008,615 |
จํานวนประชากร (1,000คน) | 820 | 832 | 844 | 856 | 867 |
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ http://www.nesdb.go.th (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2559)
ทรัพยากรป่าไม้
จังหวัดระยอง มีเนื้อที่ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.ฎ. กำหนดเขตอุทยานแห่งชาติโดยแยกเป็นป่าสงวนแห่งชาติ 8 แห่ง เนื้อที่ 821.99 ตารางกิโลเมตร หรือ 513,743 ไร่ อุทยานแห่งชาติ2 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด พื้นที่ 81,875 ไร่ และอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง พื้นที่ 42,400 ไร่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 198.84 ตารางกิโลเมตรหรือ 124,275 ไร่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 1 แห่งคือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พื้นที่ 32,875 ไร่ และสวนรุกขชาติ 2 แห่ง คือ สวนรุกขชาติเพและสวนรุกขชาติหนองสนม จากข้อมูลล่าสุดพบว่าพื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดเหลือประมาณ 313.21 ตารางกิโลเมตร หรือ 195,760 ไร่ ร้อยละ 9 ของพื้นที่จังหวัด ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้ง นอกจากนี้ยังมีป่าชายเลน ป่าเบญจ-พรรณและป่าละเมาะ การวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อที่ป่าไม้ของกรมป่าไม้ พบว่าเนื้อที่ป่าไม้ลดลงแต่พบว่าเนื้อที่ป่าไม้ที่ลดลงในอัตราที่ลดลง เนื่องจากเนื้อที่ป่าที่เหลืออยู่ในเขตอนุรักษ์และภูเขาสูงชันไม่เหมาะกับการทำเกษตรรวมทั้งการปฏิบัติงานป้องกันรักษาป่าอย่างเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ สภาพปัญหาป่าไม้บางส่วนไม่ได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติเนื่องจากอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองสหกรณ์นิคมและพื้นที่เขาเล็กๆ น้อยๆ ประกอบกับปัจจุบันกฎหมายป่าชุมชนที่มุ่งเน้นให้ประชาชนร่วมจัดการป่าไม้ยังไม่ได้บังคับใช้ เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาหากกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ได้คาดว่าจังหวัดระยองจะมีเนื้อที่ป่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันรักษาป่าและการฟื้นฟูป่า
ทรัพยากรน้ำ
จังหวัดระยอง มีแม่น้ำที่สำคัญ 2 สาย ได้แก่
- แม่น้ำระยองหรือคลองใหญ่ ความยาวประมาณ 50 กิโลเมตร มีต้นน้ำเกิดจากเทือกเขากองซองและเขาพนมศาสตร์ ซึ่งไหลผ่านตามคลองต่างๆ แล้วมารวมกันเรียกว่าคลองใหญ่และไหลลงสู่ทะเลที่ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง
- แม่น้ำประแสร์ มีต้นกำเนิดจากเขาใหญ่ เขาอ่างฤาไน เขาหินโรง เขาอ่างกระเด็น ไหลมาตามห้วยและคลองต่างๆ หลายสาย เช่น คลองประแสร์ คลองปลิง คลองบ่อทอง ห้วยหินคม คลองเจว็ด คลองตากล้วย คลองชุมแสง คลองไผ่เหนือ-ใต้ คลองตวาด คลองพังหวาย คลองจำกา คลองใช้ คลองแหวน คลองโพล้ คลองทาสีแก้วและคลองหนองเพลง แล้วไหลมารวมกันเรียกว่าแม่น้ำประแสร์ มีความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร และไหลลงสู่ทะเลที่บ้านปากน้ำ ตำบลปากน้ำประแสร์ อำเภอแกลง
คลอง มีคลองต่างๆ จำนวน 170 คลอง ซึ่งมีน้ำใช้ตลอดปีที่สำคัญ ได้แก่
- คลองดอกกราย มีความยาวประมาณ 45 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเขาซากกล้วยในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ไหลลงคลองหนองปลาไหลก่อนที่จะบรรจบกับคลองใหญ่
- คลองหนองปลาไหล มีความยาวประมาณ 42 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเทือกเขาน้ำโจน เขาชมพู่และเขาเรือตกในเขตจังหวัดชลบุรี ซึ่งไหลมาตามห้วยและคลองต่างๆ เช่น คลองระวิง คลองกร่ำ คลองปลวกแดง จังหวัดระยอง ไหลมารวมกันเรียกว่าคลองหนองปลาไหล แล้วไหลลงสู่คลองใหญ่ที่บ้านหัวทุ่ง ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านค่าย
- คลองโพล้ มีความยาวประมาณ 38 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเขาชมูน เขาชะเอมและเขาปลายคลองโพล้ ไหลลงสู่แม่น้ำประแสร์ที่บ้านท่ากระชาย อำเภอแกลง
- คลองทับมา มีความยาวประมาณ 12 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเทือกเขาต่างๆ เช่น เขาจอมแหเขาเกตุ เขากระบอก ซึ่งไหลมาตามห้วยและคลองต่างๆ เช่น คลองเขาใหญ่ คลองหนองหล้าและคลองช้างตายไหลมารวมกันเรียกว่าคลองทับมา และไหลลงสู่แม่น้ำระยองที่บ้านเกาะลอย อำเภอเมือง
- คลองระโอก มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร มีต้นน้ำจากเทือกเขาชะเมา ซึ่งไหลผ่านมาตามคลองต่างๆ เช่น คลองเขาจุด คลองสะท้องและคลองน้ำเป็น ไหลมารวมกันเรียกว่าคลองระโอก และไหลลงสู่คลองโพล้ที่บ้านเนินสุขสำราญ อำเภอแกลง
แหล่งน้ำใต้ดินของจังหวัดระยองมีคุณภาพปานกลางถึงคุณภาพดี ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองระยอง อำเภอแกลง และอำเภอวังจันทร์
ทรัพยากรแร่ธาตุ
จังหวัดระยองมีทรัพยากรแร่อยู่หลายชนิด แร่ที่มีปริมาณมากที่สุดคือแร่ทรายแก้ว แร่หินอุตสาหกรรม ชนิดหินแกรนิตเพื่อการก่อสร้าง แร่หินประดับชนิดหินแกรนิต แร่หินประดับชนิดหินไนส์ แร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินไนส์เพื่อการก่อสร้าง แร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่อการก่อสร้าง แร่อุตสาหกรรมและแร่เศรษฐกิจอื่นๆที่สำรวจพบได้แก่ แร่ดินขาว แร่เฟลด์สปาร์ แร่วอร์ทช์ แร่ทองคำ นอกจากนี้ยังพบว่ามีกลุ่มแร่ที่หายากสะสมตัวอยู่ตามชายฝั่งและในทะเล ได้แก่ แร่ดีบุก แร่โรมาไซด์ แร่เชอร์คอน แร่ซีโนไทม์ แร่ ลูโคซีน แร่ชิลเมไนท์ แร่รูไทล์ แร่โคชลัมไบท์และแร่แทนทาไลท์
นอกจากนี้ ยังมีก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย ส่งมายังโรงแยกก๊าซธรรมชาติของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยที่จังหวัดระยอง นับเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ
การสาธารณสุข
จังหวัดระยอง มีสถานพยาบาล ประกอบด้วย โรงพยาบาลของรัฐ 9 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 95 แห่ง คลินิก (ทุกประเภท) 194 แห่ง จำนวนเตียง 2,916 เตียง มีบุคลากรด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย แพทย์ 189 คน ทันตแพทย์ 52 คน เภสัชกร 81 คน และพยาบาล 946 คน อัตราส่วนแพทย์ต่อจำนวนประชากรจังหวัดระยอง เท่ากับ 1:3,468 คน
การศึกษา
จังหวัดระยอง มีสถานศึกษา 259 แห่ง การศึกษาขั้นพื้นฐาน 218 แห่ง การศึกษาระดับอาชีวศึกษาและเอกชน 31 แห่ง และอยู่ในการดูแลของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 9 แห่ง
ประชากร แรงงานและการจ้างงาน และแรงงานต่างด้าว
จังหวัดระยอง มีประชากร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ทั้งสิ้น 684,402 คน จำแนกเป็นชาย 336,690 คน หญิง 347,712 คน สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ดำเนินการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากรในจังหวัดระยองปี พ.ศ.2557 พบว่า ประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป มีจำนวน 1,244,480 คน จำแนกเป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน 903,428 คน และผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน 341,052 คน จากจำนวนผู้อยู่ในกำลังแรงงาน พบว่ามีผู้ว่างงาน จำนวน 13,651 คน และมีแรงงานต่างด้าวจำนวนทั้งสิ้น 29,115 คน
จำนวนกำลังแรงงาน จำแนกตามเพศและสภาพแรงงาน
สถานภาพแรงงาน |
จํานวนคน |
รวม |
|
ชาย | หญิง | ||
ผู้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป | 365,216 | 358,299 | 723,515 |
1.ผู้อยู่ในกําลังแรงงาน | 303,343 | 239,401 | 542,745 |
1.1 ผู้มีงานทํา | 300,822 | 237,113 | 537,936 |
1.2 ผู้ว่างงาน | 2,521 | 2,287 | 4,809 |
1.3 ผู้รอฤดูกาล | - | - | - |
2.ผู้ไม่อยู่ในกําลังแรงงาน | 61,872 | 118,897 | 180,769 |
ที่มา : สำนักงานสถิติแห่งชาติ, http://service.nso.go.th (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2559)
จังหวัดระยอง มีวิสัยทัศน์การพัฒนา 4 ปี พ.ศ. 2557-2560 (ฉบับทบทวน) คือ ประชามีสุข ท่องเที่ยวอนุรักษ์ เกษตรสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมเป็นมิตร สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยมียุทธศาสตร์การพัฒนาประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ 30 กลยุทธ์ 798 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 20,020.11 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดให้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจควบคู่ กับการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาการผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตรให้คล้องกับความต้องการของตลาดและมีคุณภาพมาตรฐานปลอดภัยต่อผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ปรับปรุงและส่งเสริมการพัฒนาการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (environmental Friendly) และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR)
ยุทธศาสตร์ที่ 4 อนุรักษ์ ฟื้นฟู และป้องกันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของจังหวัดระยอง โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ยุทธศาสตร์ที่ 5 เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและคุ้มครองสิทธิของประชาชนและสังคมจังหวัดระยองให้มีความเข้มแข็งและดำรงชีวิตตามหลักปรัชญา
ยุทธศาสตร์ที่ 6 ส่งเสริม พัฒนา เพิ่มขีดความสามารถภาคพณิชยกรรมและบริการของจังหวัดระยองสู่ความยั่งยืนเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
คณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยองได้มีการคัดเลือกพื้นที่รอบเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี เพื่อเป็นพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง มีพื้นที่ครอบคลุมเขตการปกครอง 4 ตำบล 1 เทศบาลนคร ได้แก่ ตำบลเชิงเนิน ตำบลตะพง ตำบลบ้านแลง ตำบลนาตาขวัญ และเทศบาลนครระยอง และมีอาณาเขตครอบคลุมเขตประกอบการอุตสาหกรรม 1 เขตประกอบการ คือเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เป้าหมายรวม 163 โรงงาน โดยมีโรงงานที่ได้รับการรับการรับรองระบบบริหารงานระดับสากลและระดับประเทศดังตาราง
การวางผังที่ตั้งและการจัดพื้นที่
พื้นที่เป้าหมายการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (พื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี) อยู่ในพื้นที่ 4 ตำบล 1 เทศบาลนคร ได้แก่
-
- ตำบลเชิงเนิน
- ตำบลตะพง
- ตำบลบ้านแลง
- ตำบลนาตาขวัญ
- เทศบาลนครระยอง
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีขนาดพื้นที่ 5,754 ไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล 1 เทศบาลนคร ได้แก่ ตำบลเชิงเนิน ตำบลพะตง ตำบลบ้านแลง ตำบลนาตาขวัญ และเทศบาลนครระยอง จำนวนชุมชนที่อยู่อาศัยโดยรอบพื้นที่อุตสาหกรรม (รัศมี 5 กิโลเมตร) จำนวน 9 ชุมชน (จากชุมชนทั้งหมด 56 ชุมชนของ 4 ตำบล 1เทศบาลนคร) โดยระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการของเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี ประกอบด้วย
- ถนนและการจราจร ภายในพื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี เป็นถนนประเภท Asphaltic Concrete มีการติดตั้งป้ายเตือนและสัญญาณจราจร ภายในพื้นที่โครงการและบริเวณทางเข้าออกโครงการเพื่อเพิ่มความระมัดระวัง เพิ่มความปลอดภัยและส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามกฎจราจร
- น้ำดิบ แหล่งน้ำดิบที่เขตอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี นำมาผลิตน้ำประปามาจาก 2 แหล่ง คือ
-
-
- อ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำคลองใหญ่ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่
- บ่อน้ำสำรอง 5 บ่อ
-
-
- น้ำประปา เขตอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี มีการติดตั้งสถานีสูบน้ำพร้อมโรงกรองน้ำบนพื้นที่16,000 ตารางเมตร บริเวณอำเภอบ้านค่าย มีกำลังการผลิตน้ำประปาได้ประมาณ 2,100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีการจัดทำแหล่งน้ำสำรองเตรียมเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นโดยการรองรับน้ำฝนได้ประมาณ 5.21 ล้านลูกบาศก์เมตร
- ไฟฟ้า เขตประกอบอุตสาหกรรม ไออาร์พีซี จะใช้ไฟฟ้าจาก 2 แหล่ง คือ
-
-
- โรงไฟฟ้าพลังความร้อน ขนากกำลังการผลิต 100 เมกกะวัตต์
- โรงงานผลิตไอน้ำและไฟฟ้าร่วม ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 228 เมกกะวัตต์ โดยใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระยองเป็นระบบสำรอง
-
-
- ท่าเรือปิโตรเคมีและปิโตรเลียมเหลว (Liquid & Chemical Terminal) หรือท่าเรือ LCTให้บริการถ่ายสินค้าปิโตรเคมี ปิโตรเลียมและก๊าซ ท่าเรือมีความยาวทั้งสิ้น 1,623 เมตร รองรับเรือขนาด1,000-250,000 ตัน โดยมีปริมาณสินค้าผ่านท่า 15 ล้านตันต่อปี และรองรับเรือมากกว่า 2,000 ลำต่อปี
- ท่าเรือคอนเทนเนอร์ และสินค้าทั่วไป (Bulk & Container Terminal) หรือท่าเรือ BCT ท่าเรือมีความยาวทั้งสิ้น 900 เมตร กว้าง 48 เมตร สามารถรองรับเรือขนาด 800-150,000 ให้บริการขนถ่ายสินค้าทั่วไป เช่น เหล็ก กะลาปาล์ม ถ่านหิน สินแร่ เป็นต้น
พื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีการใช้ประโยชน์พื้นที่ทั้งสิ้น 5,695 ไร่ โดยแบ่งการใช้พื้นที่ดังตาราง
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีได้จัดทำโครงการ Protection Strip รอบเขตประกอบการ ซึ่งจัดให้มีพื้นที่สีเขียวหรือคิดเป็นร้อยละ 12.16 ของพื้นที่เขตประกอบการฯทั้งหมด โดยเขตประกอบการฯได้จัดทำแนวกันชนรอบพื้นที่โครงการ โดยปลูกไม้ยืนต้นร่วมกับพืชคลุมดิน กำหนดให้ปลูกไม้ยืนต้นสลับฟันปลาไม่น้อยกว่า 3 ชั้น และปลูกไม้พุ่มแทรกระหว่างไม้ยืนต้น รายละเอียดการปลูกแนวกันชนดังนี้
-
-
- แนวกันชนด้านทิศเหนือ พื้นที่ติดกับตำบลบ้านแลง มีระยะกันชนประมาณ 3,140 เมตร
- แนวกันชนด้านทิศตะวันออก พื้นที่ติดกับตำบลตะพง มีระยะกันชนประมาณ 1,660 เมตร
- แนวกันชนด้านทิศตะวันตก พื้นที่ติดกับตำบลเชิงเนิน มีระยะกันชนประมาณ 2,720 เมตร
- แนวกันชนด้านทิศตะวันออกฝั่งใต้ถนนสุขุมวิท พื้นที่ติดกับตำบลตะพง มีระยะกันชนประมาณ 700 เมตร
-
การออกแบบอาคารและบริเวณโดยรอบ
ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมข้อมูลโรงงานอุตสาหกรรมภายนอกนิคมอุตสาหกรรมที่มีการออกแบบอาคารหรือระบบภายในอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยแนวทางการเก็บข้อมูลในอนาคตคือการสำรวจข้อมูลรายโรงงานโดยใช้แบบสอบถาม ซึ่งพิจารณาตามมาตรฐานเกณฑ์อาคารเขียวของประเทศต่างๆ ได้แก่ สถาบันอาคารเขียวไทย LEED TREES และ TEEAM หรืออุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าและแสงสว่างให้เปิดปิดอัตโนมัติตามความต้องการใช้งาน หรือมีพื้นที่ใช้สอยที่รองรับแสงจากธรรมชาติมากกว่าร้อยละ 20 ของอาคาร
เศรษฐกิจของภาคอุตสาหกรรม
จากข้อมูลโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการจดทะเบียนภายในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี) พบว่ามีเงินทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 163,831 ล้านบาท โดยเงินลงทุนของผู้ประกอบการในเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีรวมทั้งสิ้น 153,852 ล้านบาท
เศรษฐกิจท้องถิ่น
ในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี) มีวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนแล้วจำนวน 71 แห่ง สมาชิก 1,369 คน เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน 1 แห่ง สมาชิก 22 คน ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมข้อมูลโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าหรือบริการจากชุมชน หรือส่งเสริมกิจกรรมหรือกลุ่มอาชีพให้กับชุมชน หรือสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนทางด้านการตลาด หรือพัฒนาหลักสูตรส่งเสริมอาชีพ หรือทักษะแรงงาน แนวทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลในอนาคต คือ การสำรวจข้อมูลจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่
ทั้งนี้บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้มีการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าหรือบริการจากชุมชน หรือส่งเสริมกิจกรรมหรือกลุ่มอาชีพให้กับชุมชน หรือสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนทางด้านการตลาด หรือพัฒนาหลักสูตรส่งเสริมอาชีพหรือทักษะ แรงงาน ในภาพรวม โดยไม่ได้แบ่งแยกเป็นรายโรงงาน โดยประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก 5 อันดับ ได้แก่ รับจ้าง ทำสวน ค้าขาย รับราชการ และประมง ตามลำดับ ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานในครัวเรือนประมาณ 2-5 คน ซึ่งเขตประกอบการอุตสาหกรรมได้มีโครงการส่งเสริมการใช้สินค้าชุมชน (OTOP) ในอุตสาหกรรมรวมถึงการสนับสนุนการจัดซื้อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีมีการจ้างแรงงานทั้งหมด 6,767 คน โดยมีการจ้างแรงงานท้องถิ่น 5,598 คน คิดเป็นร้อยละ 82.7 ของแรงงานทั้งหมด
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมข้อมูลการจ้างแรงงานท้องถิ่น โดยแนวทางการเก็บข้อมูลในอนาคตคือการสำรวจข้อมูลรายโรงงาน ซึ่งแรงงานท้องถิ่น หมายถึงแรงงานที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในจังหวัดที่โรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ.2559 ประชากรในพื้นที่จังหวัดระยองที่อยู่ในวัยกำลังแรงงาน มีอัตราการว่างงานร้อยละ 1.69 เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน 555,447 คน ที่ว่างงานทั้งสิ้น 9,410 คน แยกเป็นเพศชาย จำนวน 5,097 คน และเพศหญิง จำนวน 4,313 คน อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลในระดับพื้นที่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
การตลาด
จากข้อมูลองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก พบว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมที่ประกอบกิจการในเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี ได้รับฉลากคาร์บอนและฉลากเขียวซึ่งเป็นสินค้าที่มีการผลิตหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน 7 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 1.2 ของโรงงานทั้งหมดในพื้นที่ นอกจากนี้เขตประกอบการไออาร์พีซียังมีโครงการส่งเสริมสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยศึกษาและดัดแปลงยางธรรมชาติ และคุณสมบัติสำคัญของยางธรรมชาติด้วยกระบวนการทางเคมีกระบวนการผสมด้วยวิธีต่างๆ มาใช้เพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมต่อการนำไปประยุกต์ใช้งาน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและไออาร์พีซี ในด้านการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Product) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในธุรกิจต่างๆ โดยสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์เกรดพิเศษและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 42
การขนส่งและโลจิสติกส์
ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนโรงงานที่มีกิจกรรมหรือมาตรการที่ปลอดภัย ลดต้นทุน หรือเพิ่ม ประสิทธิภาพระบบขนส่งและโลจิสติกส์ขององค์กร โดยแนวทางการรวบรวมข้อมูลในอนาคตคือการสำรวจข้อมูลรายโรงงาน
ในระดับจังหวัดมีโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาค (OPOAI) ซึ่งมีกิจกรรมหรือมาตรการที่ปลอดภัย ลดต้นทุน หรือเพิ่ม ประสิทธิภาพระบบขนส่งและโลจิสติกส์ขององค์กร
การจัดการคุณภาพน้ำ
การจัดการคุณภาพน้ำของเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง ซึ่งมีปริมาณน้ำเสียที่ต้องบำบัดสูงสุดประมาณ 8,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยระบบบำบัดน้ำเสียรวมของเขตประกอบการมี 3 แห่ง อยู่ฝั่งใต้ของถนนสุขุมวิท 2 แห่ง และอยู่ฝั่งเหนือของถนนสุขุมวิท 1 แห่ง มีความสามารถรับปริมาณน้ำเสียสูงสุดได้ 3,000 5,769 และ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตามลำดับ โดยเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีมีการจัดทำฐานข้อมูลคุณภาพน้ำทิ้ง COD BOD และ TSS ของน้ำทิ้งโรงงานในพื้นที่เขตประกอบการฯ
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีได้กำหนดเป้าหมายในการลดการใช้น้ำผิวดินในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงการขาดแคลนน้ำ โดยกำหนดการลดการใช้น้ำลงร้อยละ 27 หรือคิดเป็นปริมาณสะสม 6.4 ล้านลูกบาศก์เมตร ในปี พ.ศ.2559-2563 นอกจากนี้ยังมี ในปี พ.ศ.2559 มีปริมาณการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่และการใช้ซ้ำ มีปริมาณ 979,477 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26.8 ของน้ำใช้ทั้งหมด โดยปริมาณน้ำใช้ น้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ และปริมาณน้ำทิ้งของเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2557-2559 ดังตาราง
จังหวัดระยอง มีแม่น้ำ 2 สายไหลผ่าน ได้แก่ แม่น้ำระยอง และแม่น้ำประแสร์ โดยผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 พบว่า แม่น้ำระยอง ซึ่งมีจุดตรวจ 6 จุด มีระดับคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างเสื่อมโทรม และเสื่อมโทรม และแม่น้ำประแสร์ ซึ่งมีจุดตรวจ 5 จุด มีระดับคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างเสื่อมโทรม ทั้งนี้ผลการตรวจคุณภาพน้ำคลองสาธารณะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมีจุดตรวจวัด 40 จุด ครอบคลุมคลองสาธารณะจำนวน 15 สาย โดยคุณภาพแหล่งน้ำเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 2 จุดตรวจวัด คิดเป็นร้อยละ 5
ในปัจจุบันยังไม่มีการรวบรวมปริมาณน้ำใช้และน้ำทิ้งภาคอุตสาหกรรมของแต่ละโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (เขตควบคุมมลพิษ) อย่างเป็นระบบ แนวทางในการดำเนินการในอนาคต คือ กำหนดแผนในการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวโดยกำหนดผู้รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูลในแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจน รวมถึงมีการติดตามรวบรวมข้อมูลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
การควบคุมมลภาวะทางอากาศ
มีจุดตรวจวัดอากาศ 5 จุดใน จ.ระยอง ได้แก่ 1.สถานีตรวจวัดศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง 2.สถานีตรวจวัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง 3.สถานีศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง 4.สถานีสำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง ต.ท่าประดู่ อ.เมือง 5.สถานีตรวจวัดสำนักงานสาธารณสุขอำเภอปลวกแดง 6.คุณภาพอากาศบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดระยอง อ.เมือง จ.ระยองซึ่งผลตรวจวัดคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
ในปัจจุบันยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมที่ดำเนินกิจกรรมการลดการปล่อยมลพิษทางอากาศที่มีนัยสำคัญได้มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตควบคุมมลพิษ) โดยแนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คือจัดทำแบบสำรวจข้อมูลโรงงาน และ เพื่อพิจารณากำหนดหน่วยงาน/ผู้รับผิดชอบในการสำรวจข้อมูลและแนวทางในการรวบรวบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนทั้งนี้
พื้นที่เขตประกอบการไออาร์พีซีมีนโยบายให้โรงงานทุกโรงในเขตประกอบการฯ ดำเนินกิจกรรมลดการปล่อยมลพิษทางอากาศที่มีนัยสำคัญให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันทุกโรงงานมีการดำเนินการสอดคล้องตามเกณฑ์ของกฎหมาย 100% ปัจจุบันเขตประกอบการฯอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งวาล์วควบคุมการระบาย และเปลี่ยนช่องระบายอากาศเดิมที่ถังเก็บสารเคมีให้เป็นวาล์วควบคุมการระบาย เพื่อควบคุมความดันของช่องระบายก๊าซ และติดตั้งระบบควบคุมไอระเหย เพื่อควบคุมและลดการระบาย VOCs
การจัดการของเสียและวัสดุเหลือใช้
ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดในจังหวัดหรือในท้องถิ่นเก็บรวบรวมข้อมูลนี้ จากข้อมูลศูนย์สารสนเทศโรงงานอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้มีการรวบรวมข้อมูลปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรม ตามรายงานการขออนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงาน ในพื้นที่อำเภอสีเมือง โดยในปี พ.ศ.2559 อำเภอเมืองมีกากของเสียรวม 2,672,347.31 ตัน จำแนกเป็นกากของเสียไม่อันตรายร้อยละ 80.89 และกากของเสียอันตรายร้อยละ 19.01 ทั้งนี้จากแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยองมีโครงการส่งเสริมให้สถานประกอบการนำของเสียมาใช้ประโยชน์ และการพัฒนาธุรกิจรีไซเคิล/อัพไซเคิลเพื่อเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์กากอุตสาหกรรม นอกจากนี้ในปี 2559 เขตประกอบการไออาร์พีซี มีปริมาณกากของเสียทั้งหมดที่ส่งกำจัด 41,704 ตันและมีการนำกากของเสียกลับมาใช้ใหม่ 23,518 ตัน
จากรายงานสถานการณ์ขยะมูลฝอยชุมชนของประเทศไทย ในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีมีอัตราการเกิดขยะเฉลี่ย 52 ตัน/วัน อัตราการกำจัด 44.31 ตัน/วัน โดยมีการกำจัดด้วยวิธีฝังกลบ
การจัดการพลังงาน
จากรายงานสถานการณ์พลังงานจังหวัดระยอง โครงการบูรณาการแผนยุทธศาสตร์พลังงานระดับกลุ่มจังหวัดตามยุทธศาสตร์ประเทศ กระทรวงพลังงาน พบว่าในปี พ.ศ. 2558 จังหวัดระยองมีการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมรวม 1,178.35 ktoe โดย ในปี 2559 เขตประกอบการไออาร์พีซี มีปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมด 50,610,551 กิกะจูล ซึ่งลดลงจากปี 2558 ถึง 756,750 กิกะจูล คิดเป็นค่าใช้จ่ายที่ลดลงประมาณ 280 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยังไม่มีการรวบรวมข้อมูลการใช้พลังงานของโรงงานอุตสาหกรรมและการใช้พลังงานทดแทนของโรงงานอุตสาหกรรม แนวทางในการเก็บข้อมูลในอนาคต คือ พิจารณากำหนดหน่วยงาน/ผู้รับผิดชอบและแนวทางในการรวบรวบจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
การจัดการเหตุเดือดร้อนรำคาญ
ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ.2559 พบข้อร้องเรียนด้านเหตุเดือดร้อนรำคาญในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการไออาร์พีซี) จำนวน 6 เรื่อง ในพื้นที่ ต.นาตาขวัญ และ ต.เชิงเนิน โดยมีวิเคราะห์ข้อร้องเรียนและมีการดำเนินการแก้ไขตามมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม และในปี พ.ศ.2559 เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี ได้รับข้อร้องเรียนจำนวน 7 เรื่อง ประเด็นกลิ่นและฝุ่นขนาดเล็ก ซึ่งข้อร้องเรียนทั้งหมดได้รับการตรวจสอบหาสาเหตุ ดำเนินการแก้ไข และหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
กระบวนการผลิต
ในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (พื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี) มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) จำนวน 15 โรงงาน โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 3 ขึ้นไป จำนวน 27 โรงงาน
ประสิทธิภาพเชิงนิเวศ
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซีมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต พัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำและผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน ซึ่งเขตประกอบการฯได้จัดทำฐานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร เพื่อจำแนกแหล่งปล่อย ประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจำแนกจุดปรับปรุง เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ
ฐานข้อมูลของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พบว่าในส่วนของโรงงานที่จะต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งต้องมีการประเมินความหลากหลายทางชีวภาพ และจัดทำแผนป้องกันผลกระทบที่จะ เกิดขึ้นต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยในพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี) มีโรงงานที่ต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจำนวน 30 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 18.2 ของโรงงานทั้งหมดในพื้นที่
การจัดการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ
ในปี พ.ศ.2559 ในจังหวัดระยอง มีการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 17 ครั้ง
การเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างมีส่วนร่วม มีการจัดเก็บฐานข้อมูลการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสื่อสารไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในหลายช่องทาง โดยมีเครือข่ายในการเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม อาทิ เทศบาลนครระยอง กลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำระยองและป่าชายเลน องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง
คุณภาพชีวิตและสังคมของพนักงาน
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีการดำเนินงานตามแนวทางการเป็นที่ทำงานมีสุขในลักษณะภาพรวมโดยมีการดำเนินการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสังคมของพนักงาน อาทิ
การยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมของพนักงาน โดยพนักงานได้รับการอบรมความรู้อย่างต่อเนื่อง และมีการจัดกิจกรรมและพื้นที่สันทนาการสำหรับพนักงาน บอร์ดความรู้ รวมถึงการรวมกลุ่มสันทนาการด้านกีฬาต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามข้อกฎหมายแรงงานสภาพการว่าจ้างและการคุ้มครองทางสังคม สวัสดิการเงินช่วยเหลือ เช่น เบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ประกันสังคม ประกันอุบัติเหตุ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินทดแทน เป็นต้น และยังได้กำหนด
นโยบายความปลอดภัยอาชีวอนามัยในการทำงาน จัดให้มีการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานและประจำปี ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยเบื้องต้น และมีโครงการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตอื่นๆ
สถาบันการศึกษา มีการจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีไออาร์พีซี เพื่อพัฒนาการศึกษาให้กับจังหวัดระยอง และได้มีการจัดตั้งโครงการศูนย์การเรียนรู้เครือข่ายชุมชน (Community Center) เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมพัฒนาด้านการเกษตร สิ่งแวดล้อม และช่วยเหลือกลุ่มอาชีพในชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกจากนี้ยังประกอบด้วยสนามกีฬาเพื่อให้กลุ่มเยาวชนได้ส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลจากยาเสพติดหรืออาจใช้จัดการแข่งขันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนให้แน่นแฟ้นมากกยิ่งขึ้น สำหรับกลุ่มวัยทำงานสามารถใช้ศูนย์เป็นสถานที่ในการขวนขวายหาความรู้เพื่อพัฒนาทักษะที่อาจนำไปใช้ในการทำงานหรือประกอบเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้จุนเจือครอบครัว สำหรับผู้สูงอายุสามารถใช้พื้นที่ศูนย์เป็นสถนที่พักผ่อนหย่อนใจ
สถานพยาบาล มีแพทย์ประจำทำการรักษาพนักงานของบริษัททุกวันจันทร์ โดยมีพยาบาลวิชาชีพประจำการตลอด 24 ชั่วโมง มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อให้บริการด้านทันตกรรม ตรวจวัดสายตาให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลพะตง ตำบลเชิงเนิน ตำบลบ้านแลง ตำบลนาตาขวัญ และเทศบาลนครระยอง อำเภอเมือง เป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 2 ครั้ง
คุณภาพชีวิตและสังคมของคนในท้องถิ่นโดยรอบ
พื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี จังหวัดระยองมีจำนวนโรงงานที่ดำเนินการตามมาตรฐาน CSR-DIW จำนวน 31 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 18.9 ของโรงงานทั้งหมดในพื้นที่เป้าหมาย โดยในพื้นที่เขตประกอบการฯ มีโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตประกอบการที่ดำเนินการตามมาตรฐาน CSR-DIW จำนวน 16 โรงงาน ในปี 2559 ซึ่งเขตประกอบการฯมีโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบเขตประกอบการ เพื่อสร้างรากฐานชีวิตและส่งเสริมความสามารถในการพึ่งพาตนเองของชุมชน โดยมีผลการดำเนินงานที่ชัดเจนและมีการต่อยอดโครงการเดิม เช่น
-
- โครงการ 1 ช่วย 9 โดยเขตประกอบการร่วมกับสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) เพื่อดำเนินโครงการช่วยเหลือสถานศึกษา 9 แห่ง ให้พัฒนาคุณภาพและยกระดับการศึกษาสูงขึ้น
- โครงการคลินิกแพทย์เคลื่อนที่ จัดคลินิกแพทย์เคลื่อนที่ ออกตรวจและให้การรักษาขั้นพื้นฐานแก่ชุมชนรอบเขตประกอบการฯ โดยในปี 2559 มีผู้เข้ารับบริการทั้งสิ้น 1,081 คน จากการออกให้บริการ 12 ครั้ง
- โครงการคลินิกปันน้ำใจตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประกอบการฯ เพื่อเปิดให้บริการรักษาโรคทั่วไปให้กับประชาชนในพื้นที่รอบเขตประกอบการฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ในปี 2559 มีผู้เข้าใช้บริการทั้งสิ้น 4,864 คน
ข้อมูลความพึงพอใจของชุมชนต่อ CSR
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีการดำเนินการตามมาตรฐาน CSR-DIW รวมถึงมีการจ้างที่ปรึกษาภายนอกเพื่อทำการสำรวจความพึงพอใจของชุมชนโดยรอบพื้นที่ (Social Survey) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี พ.ศ.2559 เขตประกอบการฯมีผลสำรวจความพึงพอใจของชุมชนที่ร้อยละ 87.49 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 85
ข้อมูลการเกิดคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ
ในปี 2559 พื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการไออาร์พีซี) มีข้อมูลการเกิดคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญเกิดขึ้น 2 คดี และจากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าอัตราการอ่านออกเขียนได้ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปในพื้นที่จังหวัดระยอง ปี 2553 มีอัตราอยู่ที่ร้อยละ 94.9 จากข้อมูลสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ระยอง พบว่าในปี 2559 ประชากรจังหวัดระยองที่ประสบสาธารณภัย รวมทั้งสิ้น 2,820 คน ทั้งนี้ไม่มีการรายงานข้อมูลอัตราการอ่านออกเขียนได้และสาธารณภัยในระดับพื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
การบริหารจัดการพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม
ภายใต้โครงการยกระดับศูนย์ติดตามตรวจสอบและประเมินผลการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial town Center) 8 จังหวัด ปี พ.ศ. 2559 มีการแต่งตั้งคณะทำงานเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและจัดทำแผนปฏิบัติการตามแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ในปี พ.ศ.2560 ได้ประสานจัดตั้งคณะทำงานเครือข่ายอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Network)
เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี มีการบริหารจัดการในพื้นที่อย่างมีส่วนร่วม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนส่วนเสีย มีการสร้างเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง เขตประกอบการฯ ได้พยายามสร้างสมดุลของความต้องการขององค์กรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งความต้องการเร่งด่วนและความต้องการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยกิจกรรมที่แสดงให้เห็นว่ามีการคำนึงหรือรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น การประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการโดยการพูดคุย รวมถึงการจัดกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ และที่สำคัญคือมีการจัดตั้งคณะกรรมการอันประกอบด้วยตัวแทนของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องการพัฒนาและรักษาระบบบริหารระดับสากล
ข้อมูลข่าวสารและการรายงาน
พื้นที่เป้าหมายเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง (เขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี) มีการจัดทำแผนปฏิบัติการแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจังหวัดระยอง ซึ่งมีข้อแนะนำเรื่องการจัดการความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และสารเคมีของเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ http://ecocenter.diw.go.th/ อีกทั้งยังมีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเพื่อสื่อสารเผยแพร่ข้อมูลอีกด้วย
คณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ดาวน์โหลดเอกสารคณะทำงานเครือข่ายฯ (Eco Network)
ดาวน์โหลดเอกสารคณะขับเคลื่อนเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ดาวน์โหลดเอกสาร